วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2557

ช่วงนีีคนทำกาแฟ"ขาดตลาด"

ช่วงนี้เท่าที่ทราบๆมา หลายๆร้านต่างหาคนทำกาแฟ มายืนบาร์ที่ร้านตัวเอง

แต่สเปคส่วนใหญ่ๆที่หลายๆร้านต้องการเรียกว่า Ready Meal

คือประมาณว่า ฉีกซอง เทน้ำร้อน สุก ใช้งานได้เลย

ส่วนตัวยังเป็นลูกจ้างกินเงินเดือนอยู่
และก็รู้จักหลายๆคนที่ต้องการทำกาแฟเหมือนกัน แต่สมัครที่ไหนไม่มีใครรับเลย
เพราะพวกเค้าเหล่านั้นยังไม่ Ready meal นี่แหละ

และคนว่างงาน และ ready meal จริงๆก็มีน้อยเหลือเกิน มีหลายๆร้านที่เปิดเองแบบเจ้าของทำเอง ก็ไปช่วยร้านคนรู้จักกันยืนบาร์ในวันที่ร้านตัวเองหยุดก็มี

ส่วนมากมีหลายคนให้ผมช่วยแนะนำให้ร้านต่างๆให้ ผมก็ช่วยได้ตามที่ผมสามารถทำได้
แต่คนเหล่านั้นกลับไม่ที่จะขวนขวายตัวเองให้พร้อมกับการทำงานเอาเสียเลย

คนทำกาแฟที่ว่า ในความหมายผมไม่ใช่แค่ทำกาแฟ
แต่หากต้องรู้ เข้าใจเทคนิค ชิมกาแฟเป็น และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้

4 หลักที่ว่า มีเพียงอย่างเดียวที่ต้องใช้ประสบการณ์คือการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

แต่ความรู้ เข้าใจเทคนิค ชิมกาแฟ สิ่งเหล่านี้โรงเรียนสอนกาแฟคุณภาพนั้นสอนทุกอย่างที่ผมกล่าวมา ลองไปเทคคอร์สสั้นๆเพื่อให้รู้ว่าตัวเองชอบมันจ่ิงๆหรือเปล่า ถ้าชอบ แล้วได้อะไรกลับมาจากการเรีนน ซึ่งพวกนี้เป็นใบเบิกทางชั้นดีในการสมัครงานร้านกาแฟครั

ส่วนตัว ไม่เคยเรียนจากสถาบันไหนเลยใดๆทั้งสิ้น หากแต่อาศัยถาม เก็บข้อสงสัยถามผู้รู้ ศึกษาจากอาจารย์ยู(ทูป) บทความ บล็อคต่างๆ มีให้อ่านไม่หวาดไม่ไหว

และผมก็เก็บข้อมูลต่างๆมาใช้ในบาร์จริงที่ผมทำงานเพื่อการทดลองของผมเอง ฮ่าๆ
แบบผมนั้น ข้อเสีย มันคือ ใช้เวลานาน และถ้าผิด ก็จะงมหลงทางเอาง่ายๆ ไม่มีใครบอก ยกเว้นตัวเองครับ แต่ข้อดีผมเห็นชัดๆคือการมีความขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา และประสบการณ์ยืนบาร์ครับ มันทำให้ข้อมูลผมไม่เก่ามากเท่าไหร่ครับ
แต่ถ้าเรียนก็จะมีคนชี้แนวทางให้ และถ้าเรียนกับโรงเรียนที่สอนเชิงคุณภาพที่ไม่ใช่ธุรกิจ
ส่วนใหญ่เค้าจะสอนให้ต่อยอดเองได้ทั้งนั้นครับ ขึ้นอยู่กับความคิดผู้เรียนล้วนๆ

ไงผมก็ขอให้สู้ๆสำหรับคนที่หางานและร้านที่หาคนทำงานครับ ผมเชื่อว่าเดี๋ยวอีกไม่นานคงจะมีแบบฉีกซอง เทน้ำร้อน เดินกันให้ชนเลยครับบ

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557

ทำไมต้องคั่วอ่อน

กาแฟคั่วอ่อนคืออะไร ?

ถ้าคุณผู้อ่านไปซื้อกาแฟคั่วบดมาชงดื่มเอง หรือชงขาย
คงจะรู้จักคำว่า คั่วอ่อน คั่วกลาง คั่วเข้ม

แล้วทำไมเดี๋ยวนี้คนนิยมดื่มกาแฟคั่วอ่อนกันล่ะ มันเปรี้ยวอย่างกะของบูดยังกินกันอีก

ทีนี้ต้องพูดถึงแรงบันดาลใจของคนคั่วและจุดประสงค์ล่ะ คั่วอ่อนมันดีอย่างไง คนสมัยใหม่ถึงนิยมดื่มกัน

เพราะมันเป็นการคั่วกาแฟเพื่อดึงคาร์แรคเตอร์ของกาแฟแต่ละตัว ออกมาให้มากที่สุดไงครับ

กาแฟเป็นผลไม้ ภายในมีกรดต่างๆประกอบกันอยู่มากมาย การคั่วอ่อนคือการทำให้เมล็ดกาแฟสุกโดยที่ยังมีคาร์แรคเตอร์ต่างๆเหลืออยู่ตามสายพันธุ์และพื้นที่การปลูก

เอธิโอเปีย กาแฟแหล่งกำเนิดแรกของโลก ค่อนข้างมีความเป็นผลไม้ชัด
เคนย่า อาจจะมีความเป็นมะนาวชัด
สุมาตรา อาจจจะมี sprice
แต่ชวา รสชาดอาจจะดีกว่า ทั้งๆที่เอยู่ประเทศเดียวกันแต่คนละเกาะ

แต่ละแหล่งปลูก ก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป
บางที แค่เป็นกาแฟที่ปลูกคนละฝั่งเขา รสก็ต่างกันแล้วครับ ต่อให้คนโปรเซสเป็นคนเดียวกันก็ตาม มันจะมีจุดต่างกันนิดๆหน่อย ที่สัมผัสได้ครับ

จุดประสงค์คั่วอ่อนก็มีอย่างนี้แหละครับ
คนดื่มอย่างเราๆก็สนุกขึ้นทุกๆวันเพื่อตามดื่มกาแฟจากหลายที่ต่างๆ

ส่วนตัวผม ไม่รู้ว่าผมจะตายก่อนได้ดื่มกาแฟจากทั่วโลกหรือเปล่า
แต่หวังว่ากว่าจะแก่ตายคงได้มีโอกาสดื่มกาแฟจากประเทศต่างๆ ต่างสวน ต่างไร่ เพิ่มประสบการณ์ให้ตัวเองยิ่งๆขึ้นไปครับ

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557

Single Origin คืออะไร ?

Single Origin คืออะไร ?

หลายๆคนอาจจะแค่คุ้นหู หลายๆคนอาจจะงง แต่ก็มีอีกหลายๆคนที่คำนี้เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน

Single Origin คือกาแฟจากแหล่งปลูกเดียว ที่จะเลือกนำมาใช้คั่วกาแฟนั่นเอง
หากแต่คำนี้มักจะใช้ในการดื่มกาแฟแบบ Slow bar มากกว่า Espresso เพราะจุดประสงค์ของการดื่มกาแฟจากแหล่งปลูกเดียว ก็เพื่อว่าจะได้รับรู้ว่า รสชาดของกาแฟแต่ละแหล่งปลูกนั้น มีเอกลักษณ์อย่างไรบ้าง มีส่วนน้อยมากที่จะเอามาเบลนเพื่อเพิ่มรสและกลิ่นให้ซับซ้อนขึ้น เหมือนเวลาการดื่มเอสเปรสโซ่ ที่มักจะต้องการรสชาติหลากหลายกว่า รสเดียวโดดๆ

ใช้ชงเอสเปรสโซ่ได้มั๊ย ?

ได้ครับ ไม่มีอะไรผิด เพียงแค่ความซับซ้อนของรสชาด มันมีแค่อย่างเดียว แต่ชัดกว่าการดื่มแบบ Slow bar เยอะแยะเลยครับ เปรี้ยวก็เปรี้ยวจัด หวานก็หวานจัด

ทำไม Single Origin ส่วนใหญ่ถึงแพง

ผู้อ่านคงเคยได้เห็นถุงกาแฟจากประเทศนอก ทั้ง Africa , Central America
ขายกัน ถุงละ 450-500 หรือแพงกว่านั้น ในจำนวนน้ำหนักกาแฟเพียง 250 g

โดยทั่วไปนั้น เมล็ดสารกาแฟ ก็ราคาแพงอยู่แล้ว และในสารกาแฟก็ยังมีความชื้นที่เป็นน้ำหนักของมันอยู่ ฉะนั้น กาแฟสาร 1 กิโลกรัม พอคั่วเสร็จแล้ว น้ำหนักเหลือแค่ 700-800 กรัมเท่านั้นเองครับ น้ำหนักมันจะเบาขึ้น

แล้วทำไมสารกาแฟไทยยังคั่วขายกิโลละ 450 ได้ล่ะ ?

เพราะการโปรเซสและปลูกกาแฟ คนละเป้าประสงค์กันครับ เมล็ดกาแฟไทยยังใช้เป็นพันธุ์ คาร์ติมอร์เป็นหลัก มันเกิดจากการกลายพันธุ์ของกาแฟอราบิก้า แล้วนำไปผสมกับโรบัสต้า ให้มันปลูกง่าย ทนต่อโรค แต่ข้อเสียมันคือ รสชาดไม่ค่อยดีครับ และปลูกเยอะมาก การโปรเซสอาจจะธรรมดา ราคามันจึงไม่แพงมากเทียบกับกาแฟไทยที่ปลูกพันธุ์ดีเช่น ทิปปิก้า ชวา เกอิชา เมล็ดกาแฟจากพันธุ์เหล่านี้ย่อมให้รสกาแฟที่ดีกว่า แต่อาจจะมีข้อเสียสำหรับชาวสวนที่ตามมาคือ ดูแลยากขึ้น จึงสามารถขายในราคาที่แพงได้ และตลาดกำลังต้องการด้วยครับ และยิ่งนำไป Process ดีๆเช่นกับทำกระบวนการตากแห้ง หรือแบบเปียกพิเศษ อาจจะทำให้กาแฟมรเอกลักษณ์มากขึ้น ยิ่งสามารถขายในราคาสูงได้ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ขึ้นอยู่กับคนปลูก และคน Process ซึ่งอาจจะเป็นคนเดียวกัน หรือคนละคนก็ได้ครับ เพราะฉะนั้นเวลาเจอกาแฟดีๆที่ขายสมราคาและรสชาด ไม่ต้องไปสงสัยหรอกครับว่าแพงตรงไหน ผลประโยชน์สุดท้ายตกไปหาคนปลูก เค้าจะได้มีกำลังใจทำกาแฟดีๆให้เราดื่มอีกหลายๆฤดูกาลครับ